วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Take No.2

Take No.2
            เซโล่ลืมตาตื่นด้วยความยากลำบาก ใบหน้าหวานดูเศร้าสร้อยจนลู่หานได้แต่ถอนหาย หลังจากที่เซโล่ระบายความในใจออกมา พี่ชายของเขาก็กลับคอนโดของตัวเองทันที ซึ่งเขาได้แต่ถอดใจ
            “ชอบพี่ชายฉันเหรอ~” ลู่หานนั่งลงข้างๆคนที่กำลังทำหน้าซึม ก่อนที่เรียวแขนยาวๆจะกอดเขาและทิ้งตัวลงมา พร้อมกับน้ำตาอุ่นๆ
            “ฉันไม่อยากทำเลย ลู่~” ลู่หานได้แต่ลูบหัวเพื่อนรักและถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่เซโล่จะยอมลุกและไปบริษัทเพื่อนถ่ายทำ
            ตลอดทางเซโล่เอาแต่เงียบจนลู่หานได้แต่ถอนใจ เขาแอบโทรไปเพื่อจะจิกกัดพี่ชายตัวแสบ แต่เจ้าตัวดันปิดเครื่องสะนี่ น่าโมโหจริงๆ
            “เจอกันบ่ายๆนะลู่” เซโล่โบกมือก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นสามของบริษัทที่แบ่งเป็นห้องย่อยออกเป็นหกห้อง เป็นสตูดิโอสะสี่ห้อง และห้องประชุมอีกสองห้อง
            “เป็นไงบ้าง เซโล่~” แบคฮยอนมองนางแบบของตัวเองก่อนจะอมยิ้มและลากเข้ามาในสตูดิโอที่จัดแต่งเป็นห้องครัวแสนหวานแหวว พร้อมกับผู้กำกับที่นั่งอมยิ้มอยู่
            “หวัดดีฮะ” แบคฮยอนมองร่างบางสูงๆที่ดูหง่อยจนพอเอาทุกคนในกองหง่อยตามไปด้วย แบคฮยอนเดินไปหยิบชุดเมดแสนน่ารักก่อนจะมองคนที่กำลังนั่งมองมือตัวเองอยู่
            “เลื่อนวันไหม เซโล่~” แบคฮยอนตบไหล่ก่อนจะนั่งลงข้างและพิงไหล่ของรุ่นน้องเอาไว้ และจับมือเรียวที่ตกแต่งด้วยเล็บสีฟ้าสด
            “ฮยอง~”
            “ตอนที่ฉันเสียตัวครั้งแรก...” แบคฮยอนหน้าแดงก่อนจะเหลือบมองไอคนตัวสูงที่กำลังเช็คกล้องอยู่ แบคฮยอนมองหน้าเซโล่ที่ทำหน้ายุ่ง ก่อนจะถอนหายใจตาม
            “เลิกกอง!!!!! น้องชายฉันไม่พร้อมเสียตัวย่ะ” ชานยอลมองหน้าหุ้นส่วนที่รักที่กำลังยิ้มบางๆมาให้เขา ก่อนจะยอมเก็บกล้อง
            “ไม่เป็นไรฮะ~ ผมไปเปลี่ยนชุดก่อนนะฮะ” เซโล่เดินผ่านทุกคนก่อนจะถอดเสื้อและกางเกงออก และเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงฟูฟองสีชมพูหวาน และผ้ากันเปื้อน ส่วนท่อนบนเป็นก็สายเดี่ยวและมีผ้ากันเปื้อนทับอีกที
            “ว้าว! น่ารักจัง มาแต่งหน้าเร็ว~” แบคฮยอนพาเซโล่มานั่ง ก่อนจะลงมือจัดผมและแต่งตาเบาๆ แบคฮยอนยิ้มบางๆให้คนที่ทำหน้าเศร้าตลอดก่อนจะเลื่อนมือมาตบไหล่บาง
            “พระเอกวันนี้เป็นถึงนายแบบเลยนะ เซโล่” เจ้าของชื่อยิ้มบางๆให้แบคฮยอนก่อนจะเดินไปที่ฉากของห้องที่เตรียมไว้ มองบรรยากาศหวานด้วยรอยยิ้มเศร้า
Take No.2
            ลู่หานเดินวนอยู่ชั้นล่างของบริษัทด้วยความหวั่นใจ ถ้ามีใครมาและคิดว่าจะเป็นพระเอกของเพื่อนรักละก็ เขาจะขัดขว้างให้หมด ยกเว้นพี่ชายของเขานะ ^^
            “ลู่หาน~” ยงกุกมองน้องชายที่เดินวนไปวนมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะตามด้วยแรงกระแทกที่หัวของพี่ชายและทำหน้าไม่พอใจ
            “ไปเร็วๆเลยเฮีย!! เดี๋ยวโล่มันร้องไห้เอาหรอก” ลู่หานมองพี่ชายที่ยกยิ้มก่อนจะวิ่งหายไปทางบันไดวน ลู่หานอมยิ้มก่อนจะเดินไปร้านกาแฟเล็กๆในบริษัท
            “รุ่งพี่ลู่หาน~” เสียงหวานดังขึ้นจนคนถูกเรียกได้ยิ้มและมองสองสามีภรยาที่กำลังกอดกันด้วยรอยยิ้ม คนตัวสูงร่างใหญ่กับผิวเข้มๆกับคนตัวสูงร่างบางๆกับผิวขาวๆ
            “มาถ่ายหนังเหรอ? ไค~ เซฮุน~” ทั้งสองพยักหน้าก่อนจะโบกมือลาเมื่อ เจ้าของบริษัทวิ่งลงมาตาม ลู่หานอมยิ้มก่อนจะหยิบโกและเดินออกมาจากร้าน
            “ว่าไงคุณนางเอก~ อยากก้าวอะไรกับหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทไหม?~” ลู่หานหันไปมองแบคฮยอนก่อนจะเหลือบมองร่างสูงที่แสนคุ้นตาด้วยดวงตาที่เบิกกว้างมากกว่าเก่า
            “นาย!!!” คริสยกยิ้มก่อนจะมองร่างบางที่ยังคงแต่งตัวล่อแหลมด้วยสายตาที่หื่นกระหายจนเจ้าตัวแอบเสียวสันหลังวาบ
            “รู้จักกันเหรอ~” แบคฮยอนมองทั้งสองก่อนจะหยิบวอร์ที่ส่งเสียง และได้แต่โบกมือลาทั้งสองอย่างเลี่ยงไม่ได้ แหม~ ไอสองคู่ชูชื้นอย่างไคฮุนดันเริ่มแสดงตั้งแต่งยังไม่ได้แต่งตัว
            “อยากไปคุยกันฉันที่ห้องทำงานไหม?~” ลู่หานมองสายที่จ้องราวกับเขาไม่ได้ใส่เสื้อด้วยความหงุดหงิดและความคิดที่แล่นอยู่เต็มหัว
            “ไปสิฮะ~” มือเรียวคล้องคอร่างสูงก่อนจะซุกหน้าลงกับแผงอกกว้าง จากที่ซบมาสองครั้งก็พอเดาออกว่าผู้ชายคนนี้น่าจะแข็งแรงและหื่นมาก - -*
            “ยั่วเก่งจริงๆนะเรา~” คริสกุมสะโพกบางไว้แน่น ก่อนจะก้าวยาวๆไปที่ห้องทำงาน ช่างยาวนานจนอยากจะย้ายห้องทำงานมาข้างล่างหรือไม่ก็พังลิปต์ทิ้งสะ
            “อะ มะ ไม่... เดี๋ยว~” ทันทีที่ลับตาคน มือหนาที่แสนอุ่นก็แบหายไปในกางเกงขาสั้นสีดำของเขาสะแล้ว แถมด้วยใบหน้าหล่อเหลาที่มุดหายไปตรงซอกคอของเขา
            “อื้อ~” คริสอุ้มร่างบางขึ้น จับขาเรียวมาเกี่ยวไว้ที่เอว ก่อนจะดันร่างบางไปจนติดผนังลิปต์ มือหนาดึงเสื้อยืดคอกว้างออกจนแทบจะขาด เพราะมันยืดจนไม่เหลือโครงเดิม
            “อย่าสิฮะ~ ในลิปต์มีกล้องนะฮะ” ลู่หานเกี่ยวคอร่างสูงไว้ ก่อนจะกดเรียวปากลงที่แก้มสากทั้งสองข้าง ก่อนจะเอนตัวไปซบไหล่กว้าง ก่อนจะตามด้วยรอยยิ้มของร่างสูงและก้าวยาวๆออกจากลิปต์และตรงไปยังห้องทำงานที่ถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย
            คริสวางลู่หานลงกับโซฟาสีดำในห้องทำงาน ก่อนจะถอดเสื้อยืดของร่างบางด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะตามด้วยกางเกงขาสั้นที่ถูกถอดออกไปกองที่พื้น
            “เดี๋ยวลู่ถอดให้นะฮะ” ลู่หานปลดเนคไทสีดำออก ก่อนจะปลดกระดุมที่ปลดอยู่แล้วออกจนหมด ก่อนจะค้างมือไว้ที่ขอบกางเกง และดันร่างสูงลงกับโซฟา
            “ใจเย็นสิฮะ~” ลู่หานปลดกางเกงสแล็ค ก่อนจะกอบกุมเจ้าสิ่งที่กำลังตื่นตัวด้วยสองมือเล็กๆ ลิ้นเล็กไล้เลียตั้งแต่ปลายจนถึงโคน มือเรียวช่วยบีบนวด ครอบครองความปรารถนาของร่างสูงด้วยเรียวปากเล็ก
            “เก่งนี่~” คริสออกปากชมร่างบางที่ถอดตัวอยู่ระหว่าง ทั้งมือและริมฝีปากแดงระเรือทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี มือหนาจับกลุ่มแสนอ่อนนุ่มไว้ และกระแทกกายเร็วกกว่าเดิมจนลู่หานเริ่มสะลักเพราะความยาวและใหญ่ที่ถอดตัวอยู่ในเรียวปากจนมาถึงลำคอ
            “อะ ซี้ด!” คริสครางออกมาเมื่อร่างบางสนองความต้องให้เขาเป็นอย่างดี ร่างสูงกระแรกเข้าใส่ริมฝีปากเรียวอย่างแรงอีกสองสามครั้งและปลดปล่อยออกมา
            “ฮึก!” ลู่หานกลืนน้ำกามแสนคาวลงคอด้วยรอยยิ้มหวาน ก่อนจะดันขึ้นโอบรอบคอร่างสูงไว้ สะโพกกลมมนบดเบียดกับความปรารถนาของร่างสูงที่พึ่งปลดปล่อยไป
            “ยั่วเก่งจังเลยนะ เสี่ยวลู่~” ลู่หานหัวเราะคิกคัก มือเรียวไล้ไปตามแผงอกแกร่งด้วยใบหน้าที่เริ่มแดงระเรือเพราะความเหนื่อยอ่อน
            “อะ อืม!” มือหนาบีบนวดอยู่ที่สะโพก และแก้มก้นขาวๆจนเกิดรอยแดงขนาดใหญ่ ลู่หานวางหน้าลงกับไหล่กว้าง และจูบซับที่ลำคอ
            “อยากต่อนะฮะ แต่ลู่มีถ่ายต่อ ไปนะฮะ” ลู่หานยกยิ้ม หยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวของคริสขึ้นและบรรจงสวมมันตรงหน้าร่างสูงที่ยังคงจับจ้องอยู่ที่เขา
            “ลู่ยึดไว้นะฮะ” ลู่หานโบกมือให้ และเปิดประตูออกไปโดยมีรอยยิ้มมุมปากของคริสเท่านั้นที่ปรากฏให้เห็น ร่างสูงลุกขึ้น มองเสื้อผ้าของคนตัวเล็กที่ทิ้งไว้ด้วยความหลงใหลยิ่งกว่าเดิม
            เซโล่ยืนคนแป้งในกาละมังสแตนเลสด้วยท่าทางที่เหม่อลอย แต่แรกกระแทกที่ด้านหลังทำให้เขาตัวสะดุ้ง และพยายามมองไปด้านหลัง
            “โอ๊ะ! ฮยอง!!” ยงกุกซุกหน้าลงกับซอกคอขาวที่โผล่พ้น มือหนาลูบไปใต้กระโปรง ขณะที่มืออีกข้างก็ปลดผ้ากันเปื้อนและเสื้อสายเดี่ยวออก
            “อะ อ๊า เดี๋ยว~” เซโล่ถูกอุ้มขึ้นและวางลงบนเคาเตอร์ มือเรียวโอบรอบคอร่างสูงถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นใส่เพียงกางเกงยีนส์ขาดๆเพียงตัวเดียว
            “ฮยองหวงร่างกายนี้มากนะ~” ยงกุกกระซิบที่ใบหูพลางไล้เลียเบาๆอย่างยั่วยวน มือหนาดึงกางเกงชั้นในตัวบางออกไปให้พ้นทาง ลิ้นร้อยไล้เลียอยู่ที่ใบหู ก่อนจะลากมาที่เรียวปากบางที่เปื้อนลิปกอสอยู่
            “อื้อ!” ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปช้าๆ ก่อนจะบดเบียดด้วยความนุ่มและอ่อนโยน ลิ้นทั้งสองแลกเปลี่ยนน้ำลายกันเนิ่นนาน เกี่ยวตะวัดกับราวกับจะไม่แยกออกจากกัน
            เซโล่โอบรอบคอร่างสูงอย่างหลงใหล ขณะที่มือหนาเริ่มชักนำอารมณ์ร่างบางให้เต็มไปด้วยความปรารถนา ยงกุกผละริมฝีปากออก ลากลิ้นลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะดันร่างบางให้นอนราบไปกับเคาเตอร์ รอยยิ้มและดวงตาหยาดเยิ้มทำให้อารมณ์วาบวามยิ่งพุ่งสูงขึ้น มือหนาเพิ่มความเสียวซ่านให้ร่างบางเรื่อยๆ นิ้วเรียวยาวแทรกเข้าไปในช่องทางหวานที่เริ่มมีน้ำไหลออกมาตลอด
            “อ้าขากว้างๆสิ โล่” เจ้าตัวเมินหน้าหนี แต่ก็ยอมแยกขาออกตามที่อีกฝ่ายบอก นิ้วเรียวแทรกเข้าไปในร่างบางเรื่อยๆจนครบสามนิ้ว พร้อมกับก้มจูบร่างบางอีกครั้ง มือหนารั้งกางเกงยีนส์ลง กอบกุมเจ้าสิ่งที่กำลังตื่นตัวเพียงเล็กน้อย มือหนาหยิบเจลใสที่ทีมงานวางไว้ที่ชั้นมาบีบใส่มือ ละเลงลงที่ช่องทางอ่อนนุ่มและแก่นกายของตน
            “อะ อ๊า~ ดะ เดี๋ยว! อึก!” ยงกุกแทรกกายเข้าไปรวดเร็วจนมิด ก้มลงจูบไซร้ร่างบางอีกครั้งเพื่อนปลุกเร้าอารมณ์ บดเบียดริมฝีปากลงที่ยอดอกแสนหวานสีสวยทั้งสองข้าง ร่างบางบิดเร้าเมื่อความเสียวซ่านเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ยงกุกขยับสะโพกและขยับมือเพื่อชะนำร่างบางไปเรื่อยๆ มือเรียวโอบรอบคอร่างสูงเพื่อระบายอารมณ์เสียวซ่านที่มี เรียวปากทั้งสองเลื่อนเข้าหากันอีกครั้ง จูบรุนแรงขึ้นทุกครั้งที่ริมฝีปากแตะกัน
            “ซี้ด! แน่นมาก~” ยงกุกกระซิบบอกเซโล่ด้วยรอยยิ้มบาดใจที่ทำให้ร่างบางหน้าขึ้นสี ใบหน้าหวานซุกลงกับแผงอก มือเรียวจกลงที่แผ่นหลัง พลางกัดลงที่ไหล่กว้าง เรียวขาเกี่ยวเอวหนาทำให้การสอดใส่ยิ่งลึกกว่าเดิม
            “แรงอีกสิฮะ” เสียงกระซิบที่ข้างหูทำให้ยงกุกยกยิ้มและกระชับสะโพกมนให้แนบแน่นมากกว่าเดิม ร่างสูงสวนสะโพกเข้าออกแรงและถี่กว่าเดิม
            “อะ อ๊า~” เสียงครางหวานดังขึ้นเรื่อยๆ บวกด้วยแรงกระแทกที่ทั้งรุนแรงและถี่ยิบ จนเซโล่ตัวสั่นคลอนไปหมด กลิ่นคาวและอาจากรปวดหนึบที่แก่นกาย ชาองทางหวานหดรัดตัวเมื่อร่างบางใกล้จะถึงเช่นกัน ยงกุกขยับมือเร็วขึ้น พวกกับสะโพกหนาที่กระหน่ำซอยถี่ขึ้นเรื่อยๆ
            “ฮะ ฮึก!” เซโล่จิกเล็บลงที่ไหล่ของยงกุก แก่นกายสีลูกกวาดปลดปล่อยน้ำนมสีขุ่นออกมา ยงกุกกระแทกสะโพกเข้ามาอีกสองครั้ง และปลดปล่อยใส่ร่างบางทันที ความรู้สึกอุ่นร้อนเต็มท้อง เซโล่ส่ายหน้าไปมาเมื่อรู้สึกอายและเจ็บบริเวณสะโพกขึ้นมาทันที และความรู้สึกโล่งเมื่อยงกุกถอนกายออกไป
            ยงกุกวางร่างบางลงกับโซฟาและกดจูบลงที่หน้าผาก เปลือกตา จมูก และแทรกลิ้นเข้าไปเกี่ยวตะวัดกับลิ้นเล็กภายในอีกครั้ง
            “คัด!!” เสียงของชานยอลทำให้ทั้งสองได้สติ ยงกุกมองร่างบางด้านล่าง ก่อนจะรับเสื้อคลุมอาบน้ำมาห่อร่างบางด้วยความรวดเร็ว
            “ฮยอง... มาทำไมฮะ” ทันทีที่ยงกุกวางร่างบางลงกับโซฟาในห้องแต่งตัว น้ำอุ่นๆก็ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง คนตัวเล็กเอาแต่ก้มมองมือทั้งสองข้างไม่ยอมเงยขึ้นมา
            “อยากรู้... ก็อีกรอบสิ” เซโล่ปล่อยโฮออกมาเมื่อรับรู้ถึงอ้อมกอดอุ่นๆที่โอบล้อมเขาอยู่ มือหนาลูบที่กลุ่มผมสีสว่าง และกดจมูกลงที่กลุ่มผม

Sex No.2 :: รุนแรง

Sex Land ดินแดนหื่นหฤหรรษ์    
Sex No.2 :: รุนแรง
            จงอินมองขบวนของฮิมชานที่กลับมาพร้อมกับกลุ่มคนตัวขาวๆและใบหน้าหวานที่กำลังแสดงความไม่พอใจออกมา
            “มองแล้วคงจะมีรางวัลของเจ้าและฮิมชานอยู่ด้วย” จงอินยกยิ้มก่อนจะสวมผ้าคลุมและเดินออกไปจากห้อง และตามด้วยแดฮยอนที่ค่อยๆกลายเป็นควันออกไป
            “แกมันชั่ว” เป็นประโยคเดียวที่ยองแจพูดตั้งแต่เจอหน้าฮิมชานในป่าจนกระทั่งเดินมาถึงปราสาทมืด ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยความโกรธและคับแค้นใจ
            “ฉันจะพาลู่หานไปจากที่นี้” ยองแจประกาศเสียงดังพลางดึงเอาแบคฮยอนมาไว้ใกลัตัวและดึงลู่หานมาด้วยอีกคนปล่อยให้สองมักเน่เกาะแขนจงออบแทน
            “ถ้าคิดว่าทำได้ก็เชิญ” ฮิมชานท้าทายก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้าและหันมามองหน้าทั้งหกคนด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะผายมือไปตรงหน้า
            “เชิญ!!”
            ลู่หานก้าวนำเข้ามาในห้องโถงแสนกว้าง บานหน้าต่างยาวเกือบถึงพื้น พรมสีแดงตัดกับพื้นกระเบื้องสีดำ และบัลลังก์ขนาดใหญ่ที่ตรงหน้ากับร่างสูงที่ยกยิ้มอยู่บนนั้น
            “สวัสดีพี่สะใภ้~” แบคฮยอนเบ้าปากก่อนจะทิ้งตัวลงกับพื้นเพราะความเมื่อยและเหนื่อยที่มีมาตั้งแต่เช้า ไหนจะบรรยากาศชวนหลับนี่อีก
            “อย่ายุ่งกับพวกฉัน” ยองแจขึ้นมาอยู่ข้างหน้าก่อนจะดันทุกคนอยู่ข้างหลัง โดยมีสองมักเน่เกาะแขนลู่หานและจงออบที่ประกบหลังอีกทีและแบคฮยอนที่ยืนอยู่ข้างหลังยองแจ
            “จับแยกให้หมด ขังพวกนั้นไว้ด้วยกัน จับลู่หานแยกเดียว และ...เซฮุนเอาไว้ที่ห้องของฉัน” มือเรี่ยวปัดไปมาเมื่อทหารตัวใหญ่จำนวนมากมายพุ่งเข้ามาและจับพวกเขาแยกออกจากัน ยองแจและแบคฮยอนถูกแยกไปอีกที ขณะที่เซโล่และจงออบถูกแยกไปอีกทาง
            “ปล่อยฉันนะ!!” จงอินเดินนำร่างบางที่เดินตามเข้ามาด้วยใบหน้าไม่พอใจ เพราะเวทมนต์ที่เขาร่ายใส่ร่างบาง ก่อนจะผลักบานประตูออก
            ผลัก!
            จงอินผลักร่างบางลงบนเตียงหลังใหญ่ ใบหน้าหวานฉายแววความกลัวอยู่เต็มที ทำให้จงอินยิ่งชอบใจ ก่อนจะดีดนิ้ว พร้อมกับควันสีดำที่ลอยออกมาจากหัวเตียงและรั้งข้อมือเล็กเอาไว้
            “อิทุเรศ!! แน่จริงปล่อยดิ!!” คำด่าทอถูกปล่อยออกมาตลอด จนร่างสูงส่ายหน้าไหนจะแรงดิ้นที่ทั้งดิ้นและถึบเค้าอีกด้วยในเวลาเดียวกัน
            “อื้อ!!!” จงอินผลักร่างบางลงกับพื้น ขึ้นคร่อม และกดจูบด้วยความรวดเร็ว มือหนากระชากเสื้อผ้าของร่างใต้อาบัติอย่างรวดเร็ว มือหนารวบข้อเล็กไว้เหนือหัวและกดเอาไว้
            “ออกไปนะ” จงอินยกยิ้มเหยียด แก้ผ้าคาดเอวมาหมัดข้อมือเรียวไว้กับหัวเตียง ร่างบางที่เปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าทำให้อารมณ์ความต้องการของร่างสูงพุ่งขึ้นเรื่อยๆ มือหนากอบกุมแก่นกายสีลูกกวาดของร่างบางจนเริ่มตื่นตัว โดยที่ร่างบางบิดเร้าด้วยความกลัว เรียวขาถูกบังคับให้ติดกับเตียง ขณะที่มือหนาและริมฝีปากก็สนุกกับเรือนร่างสวยงามตรงหน้า
            “ครางหวานหวานล่ะ” จงอินยกยิ้มอย่างชอบใจเมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวแตกต่างจากสายตาที่กวนประสาทและเย่อหยิ่งในตอนแรก
            “ฮะ อึก!! เจ็บ!! เอาออกไปนะ!!” ทันทีที่สิ่งแปลกปลอมแทรกเข้ามา เซฮุนก็เบ้หน้าพร้อมกับน้ำตาที่ไหล และเสียงตะวาด ด่าทอ ที่ดังขึ้น ช่องทางที่ไม่ได้รับการเบิกทางทั้งรดตึง และตึงเครียด แต่จงอินก็ดันไปจนสุดทำให้เลือดไหลออกมาตามเรียวขาทันที
            “ซี้ด!! แน่นสมกับเป็นครั้งแรกจริงจริง” จงอินบอกอย่างชอบใจ ขณะที่เซฮุนได้แต่ร้องไห้และตอบรับไปเพราะเรี่ยวแรงที่หดหายไป จงอินขยับสะโพกโดยอาศัยเลือดเป็นตัวล่อลื่น มือหนาบีบเคล้นที่ยอดอกทั้งสองข้างจนแดงคล้ำ เรียวปากขบเม้มไปทั่วแผ่นอกบางๆที่แอ่นขึ้นรับสัมผัสของเขา
            “ฮะ อ๊า!” เสียงครางหวานดังขึ้นเมื่อจงอินกระแทกกายเข้ามาอย่างแรง ช่องทางหวานฉีกมากกว่าเดิมแต่ก็ไม่ได้รับความเห็นใจจากร่างสูง สะโพกหนายังคงกระแทกจนกระทั้งร่างบางปลดปล่อยออกมาเพราะเสียดสีกับหน้าท้องแกร่ง จงอินยกยิ้ม ก่อนจะป้ายน้ำผมสีขุ่นมาที่เรียวปากบางและแทรกนิ้วเข้าไป จงอินกระแทกกายถี่และแรงขึ้นทำให้ร่างบางกระแทกกับหัวเตียง ก่อนที่ร่างสูงจะหยุดและปลดผ้าออกจากหัวเตียง
            “ฮึก อื้อ!!” จงอินดึงร่างบางมาจูบอีกครั้ง และกระแทกกายเข้าหาร่างบางอย่างแรง เซฮุนถูกดึงตัวลอยและทิ้งตัวลงกระแทกกับแก่นกายที่รอรับอยู่เบื้องล่าง จงอินกระแทกกายสวนร่างบางอีกหลายครั้ง ก่อนจะปลดปล่อยใส่ร่างบางทันที
            “พอ พอ ยัง” เสียงเบาหวิวทำให้จงอินส่ายหน้า ดันร่างบางลงดับเตียงโดยที่ไม่มีการถอดถอนใดๆทั้งสิ้น จงอินแกะผ้าออกโดยที่ไร้ซึ่งการต่อต้านจากร่างบาง
            “ยัง~ ทำหน้าให้ดีๆหน่อยสิ คุณภรรยา” จงอินยกยิ้มก่อนจะเริ่มบทรักครั้งใหม่ โดยที่มีเสียงครวญครางและเสียงร้องไห้ของเซฮุนตลอดค่ำคืนนี้
            ลู่หานมองเพดานแก้วและประตูเหล็กด้วยใบหน้าที่คลอน้ำตา ร่างบางกอดเขาและถอดสายตามองไปนอกหน้าต่าง การเดินทางที่ยาวนานทำให้เขาเหนื่อยจนต้องยอมนอนลงและหลับไปทันที
            กึก! กึกๆๆๆๆๆ!!
            เซโล่เขย่าลูกกรงมาตลอดเวลาที่ถูกขัง ส่วนจงออบก็มองไปรอบๆอย่างงุนงงจนเซโล่ได้ตานอนแผ่ไปกับพื้นอย่างหมดความหวัง จงออบมองเซโล่ก่อนจะเดินมาจับลูกรงและเริ่มออกแรกดึงออกจากกัน
            คึก!
            เสียงปลดกุญแจทำให้ทั้งสองเงยขึ้นมาพร้อมกัน ควันสีดำลอยเข้ามาพร้อมกับร่างสูงที่ปรากฏกายภายในลูกกรงพร้อมกับกุญแจประตูที่ปลดล็อค
            “นาย!!” เซโล่กระโดดกอดเอวจงออบทันที ด้วยความตกใจและหวาดกลัว ขณะที่จงออบมองอีกฝ่ายด้วยความหวดาระแวง
            หมับ!!
            “เซโล่หนีไปช่วยพี่ลู่หานเร็วเข้า!!” จงออบกอดร่างสูงเอาไว้และเหวี่ยงลงกับพื้น เสียงตะโกนทำให้เซโล่รีบวิ่งออกมา และเดินไปเรื่อยๆด้วยความไม่รู้
            แดฮยอนปล่อยให้จงออบกอดไปเรื่อยจนกระทั่งร่างสูงพลิกกลับมาอยู่ด้านบนและดันคนมึนและไปกับพื้น แถมด้วยแรงดิ้นและถีบจากอีกฝ่าย
            “ฉันจะปล่อยเพื่อนนายไป แต่นายต้องอยู่ที่นี้” แดฮยอนอมยิ้ม พลางกดจมูกลงที่แก้มนิ่มทั้งสองข้างเมื่อจงออบเลิกดิ้น ปล่อยให้เขาอุ้มออกจากห้องขังง่ายๆ
            แกร๊ก!
            เสียงปลดกุญแจทำให้ยองแจกับแบคฮยอนหันไปมอง ร่างสูงของฮิมชานปรากฏภายในห้องขังและยกยิ้มมองร่างบางทั้งสองที่แทบจะรวมร่างกัน
            พลั่ก!
            ยองตรงเข้าต่อยอีกฝ่ายก่อนจะถีบซ้ำจนร่างสูงลงไปกองกับพื้น แบคฮยอนเข้าห้ามเพื่อนที่ทำท่าจะซ้ำอีกรอบ ก่อนจะลากออกไปจากห้องขัง
            “คิดว่าฉันจะแพ้นายแบบนี้ใช่ไหม? ยูยองแจ” ฮิมชานยกยิ้ม ก่อนจะเหลือทิ้งไว้เพียงกลุ่มควันที่เริ่มจางลง ขณะที่แบคฮยอนและยองแจกำลังวิ่งกันสุดตัว
            “พี่!!” เซโล่วิ่งเข้าหาทั้งสอง ก่อนจะเล่าเรื่องของจงออบให้ทั้งสองฟัง ตามด้วยลมหายใจอ่อนๆของแบคฮยอนที่กำลังบอกว่าไม่สบายใจ
            “ขอโทษนะที่ทำให้ลำบาก” แบคฮยอนก้มหน้ามองมือ ยองแจได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะกอดเพื่อนรักเอาไว้และลากไปตามทางเงียบๆ
            “รีบหาลู่หานและไปจากที่นี้กันเถอะ” ทางเงียบๆกับหมอกสีขาวทำให้ทั้งสามเริ่มจับกลุ่มกันแน่น ขณะที่สายตาก็สอดส่องไปทั่วเพื่อหาห้องที่น่าจะเป็นห้องขังของลู่หาน
            “ฉันว่าต้องเป็นห้องแน่นหนาและดูดีกว่าพวกเราคิดว่างั้นไหม?” ทุกคนพยักหน้า ขณะที่ยองแจเอาแต่จ้องกลุ่มควันด้วยความอยากรู้
            “นี่~ พวกพ่อมดมืดหายตัวแล้วควันเป็นสีดำใช่ไหม?” แบคฮยอนและเซโล่พยักหน้าพร้อมกัน ยองแจเดินตามกลุ่มควันไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้อีกสองคนได้แต่ตามไปด้วยความสงสัย
            “หมายความว่ายังไงเหรอ? ยองแจ” ควันสีขาวหยุดลงที่ทางแยกแผ่นหลังที่เงียบนิ่งของเพื่อนด้านหน้าทำให้แบคฮยอนสงสัยยิ่งกว่าเดิม
            “พวกพ่อมดขาวก็มีเวทมนต์เหมือนกัน พวกเขาน่าจะหายตัวได้เหมือนกัน และบางทีพ่อมดขาวอาจจะส่งใครมาช่วยลู่หานก็ได้” แบคฮยอนและเซโล่พยักหน้าพร้อมกันอย่างเห็นด้วย
            “งั้นตอนนี้ควันไปทางไหน” ทั้งสองเริ่มสอดสายตามองหากลุ่มควัน โดยมียองแจอมยิ้มกับท่าทางของทั้งสอง แต่ทั้งสามก็ชะงักเมื่อเสียงฝีเท้านับสิบกำลังวิ่งมาทางพวกเขา
            “หลบเร็ว!!” ยองแจดึงอีกสองคนเข้ามาในห้องข้างๆ เสียงที่ดังขึ้นด้านนอกแสดงให้เห็นว่าทุกคนในปราสาทรู้แล้วว่าพวกเขากำลังจะหนี
            “ฉันว่าพวกมันต้องไปเสริมกำลังที่ห้องขังลู่หานแน่เลย” ยองแจเริ่มเหงื่อตก ลำพังพวกเขาไม่มีทางเอาชนะกำลังของพวกทหารบ้ากำลังนั้นได้แน่น
            “แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ” ยองแจกดล็อคประตูจากด้านใน และวิ่งไปปิดหน้าต่างทุกบานในห้อง มองห้องที่ตกแต่งแบบเรียบด้วยความเหนื่อยใจ
            “ผมง่วงอ่ะ” เซโล่ทิ้งตัวลงบนเตียง ขณะที่พี่กำลังนั่งปรึกษากันอยู่ที่โซฟาปลายเตียงด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
            “แล้วเรา...”
            “ปล่อย!!!!!!” เสียงโวยวายด้านนอกทำให้แบคฮยอนและยองแจวิ่งไปที่ประตูและแนบหูลง เสียงโวยวายที่แสนคุ้นเคยทำให้ทั้งสองมองหน้ากัน
            “จงออบ!!” จงออบวิ่งสุดตัว พอเลี้ยวก็พบกับทั้งสองที่กำลังทำโตอยู่ ทั้งรอยยิ้มและอาการตกใจยังคงมีให้เห็น ก่อนจะล็อคห้องและพากันไปนั่งที่โซฟา
            พลั่ก!!
            “พี่!!!”