วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Sex No.2 :: รุนแรง

Sex Land ดินแดนหื่นหฤหรรษ์    
Sex No.2 :: รุนแรง
            จงอินมองขบวนของฮิมชานที่กลับมาพร้อมกับกลุ่มคนตัวขาวๆและใบหน้าหวานที่กำลังแสดงความไม่พอใจออกมา
            “มองแล้วคงจะมีรางวัลของเจ้าและฮิมชานอยู่ด้วย” จงอินยกยิ้มก่อนจะสวมผ้าคลุมและเดินออกไปจากห้อง และตามด้วยแดฮยอนที่ค่อยๆกลายเป็นควันออกไป
            “แกมันชั่ว” เป็นประโยคเดียวที่ยองแจพูดตั้งแต่เจอหน้าฮิมชานในป่าจนกระทั่งเดินมาถึงปราสาทมืด ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยความโกรธและคับแค้นใจ
            “ฉันจะพาลู่หานไปจากที่นี้” ยองแจประกาศเสียงดังพลางดึงเอาแบคฮยอนมาไว้ใกลัตัวและดึงลู่หานมาด้วยอีกคนปล่อยให้สองมักเน่เกาะแขนจงออบแทน
            “ถ้าคิดว่าทำได้ก็เชิญ” ฮิมชานท้าทายก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้าและหันมามองหน้าทั้งหกคนด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะผายมือไปตรงหน้า
            “เชิญ!!”
            ลู่หานก้าวนำเข้ามาในห้องโถงแสนกว้าง บานหน้าต่างยาวเกือบถึงพื้น พรมสีแดงตัดกับพื้นกระเบื้องสีดำ และบัลลังก์ขนาดใหญ่ที่ตรงหน้ากับร่างสูงที่ยกยิ้มอยู่บนนั้น
            “สวัสดีพี่สะใภ้~” แบคฮยอนเบ้าปากก่อนจะทิ้งตัวลงกับพื้นเพราะความเมื่อยและเหนื่อยที่มีมาตั้งแต่เช้า ไหนจะบรรยากาศชวนหลับนี่อีก
            “อย่ายุ่งกับพวกฉัน” ยองแจขึ้นมาอยู่ข้างหน้าก่อนจะดันทุกคนอยู่ข้างหลัง โดยมีสองมักเน่เกาะแขนลู่หานและจงออบที่ประกบหลังอีกทีและแบคฮยอนที่ยืนอยู่ข้างหลังยองแจ
            “จับแยกให้หมด ขังพวกนั้นไว้ด้วยกัน จับลู่หานแยกเดียว และ...เซฮุนเอาไว้ที่ห้องของฉัน” มือเรี่ยวปัดไปมาเมื่อทหารตัวใหญ่จำนวนมากมายพุ่งเข้ามาและจับพวกเขาแยกออกจากัน ยองแจและแบคฮยอนถูกแยกไปอีกที ขณะที่เซโล่และจงออบถูกแยกไปอีกทาง
            “ปล่อยฉันนะ!!” จงอินเดินนำร่างบางที่เดินตามเข้ามาด้วยใบหน้าไม่พอใจ เพราะเวทมนต์ที่เขาร่ายใส่ร่างบาง ก่อนจะผลักบานประตูออก
            ผลัก!
            จงอินผลักร่างบางลงบนเตียงหลังใหญ่ ใบหน้าหวานฉายแววความกลัวอยู่เต็มที ทำให้จงอินยิ่งชอบใจ ก่อนจะดีดนิ้ว พร้อมกับควันสีดำที่ลอยออกมาจากหัวเตียงและรั้งข้อมือเล็กเอาไว้
            “อิทุเรศ!! แน่จริงปล่อยดิ!!” คำด่าทอถูกปล่อยออกมาตลอด จนร่างสูงส่ายหน้าไหนจะแรงดิ้นที่ทั้งดิ้นและถึบเค้าอีกด้วยในเวลาเดียวกัน
            “อื้อ!!!” จงอินผลักร่างบางลงกับพื้น ขึ้นคร่อม และกดจูบด้วยความรวดเร็ว มือหนากระชากเสื้อผ้าของร่างใต้อาบัติอย่างรวดเร็ว มือหนารวบข้อเล็กไว้เหนือหัวและกดเอาไว้
            “ออกไปนะ” จงอินยกยิ้มเหยียด แก้ผ้าคาดเอวมาหมัดข้อมือเรียวไว้กับหัวเตียง ร่างบางที่เปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าทำให้อารมณ์ความต้องการของร่างสูงพุ่งขึ้นเรื่อยๆ มือหนากอบกุมแก่นกายสีลูกกวาดของร่างบางจนเริ่มตื่นตัว โดยที่ร่างบางบิดเร้าด้วยความกลัว เรียวขาถูกบังคับให้ติดกับเตียง ขณะที่มือหนาและริมฝีปากก็สนุกกับเรือนร่างสวยงามตรงหน้า
            “ครางหวานหวานล่ะ” จงอินยกยิ้มอย่างชอบใจเมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวแตกต่างจากสายตาที่กวนประสาทและเย่อหยิ่งในตอนแรก
            “ฮะ อึก!! เจ็บ!! เอาออกไปนะ!!” ทันทีที่สิ่งแปลกปลอมแทรกเข้ามา เซฮุนก็เบ้หน้าพร้อมกับน้ำตาที่ไหล และเสียงตะวาด ด่าทอ ที่ดังขึ้น ช่องทางที่ไม่ได้รับการเบิกทางทั้งรดตึง และตึงเครียด แต่จงอินก็ดันไปจนสุดทำให้เลือดไหลออกมาตามเรียวขาทันที
            “ซี้ด!! แน่นสมกับเป็นครั้งแรกจริงจริง” จงอินบอกอย่างชอบใจ ขณะที่เซฮุนได้แต่ร้องไห้และตอบรับไปเพราะเรี่ยวแรงที่หดหายไป จงอินขยับสะโพกโดยอาศัยเลือดเป็นตัวล่อลื่น มือหนาบีบเคล้นที่ยอดอกทั้งสองข้างจนแดงคล้ำ เรียวปากขบเม้มไปทั่วแผ่นอกบางๆที่แอ่นขึ้นรับสัมผัสของเขา
            “ฮะ อ๊า!” เสียงครางหวานดังขึ้นเมื่อจงอินกระแทกกายเข้ามาอย่างแรง ช่องทางหวานฉีกมากกว่าเดิมแต่ก็ไม่ได้รับความเห็นใจจากร่างสูง สะโพกหนายังคงกระแทกจนกระทั้งร่างบางปลดปล่อยออกมาเพราะเสียดสีกับหน้าท้องแกร่ง จงอินยกยิ้ม ก่อนจะป้ายน้ำผมสีขุ่นมาที่เรียวปากบางและแทรกนิ้วเข้าไป จงอินกระแทกกายถี่และแรงขึ้นทำให้ร่างบางกระแทกกับหัวเตียง ก่อนที่ร่างสูงจะหยุดและปลดผ้าออกจากหัวเตียง
            “ฮึก อื้อ!!” จงอินดึงร่างบางมาจูบอีกครั้ง และกระแทกกายเข้าหาร่างบางอย่างแรง เซฮุนถูกดึงตัวลอยและทิ้งตัวลงกระแทกกับแก่นกายที่รอรับอยู่เบื้องล่าง จงอินกระแทกกายสวนร่างบางอีกหลายครั้ง ก่อนจะปลดปล่อยใส่ร่างบางทันที
            “พอ พอ ยัง” เสียงเบาหวิวทำให้จงอินส่ายหน้า ดันร่างบางลงดับเตียงโดยที่ไม่มีการถอดถอนใดๆทั้งสิ้น จงอินแกะผ้าออกโดยที่ไร้ซึ่งการต่อต้านจากร่างบาง
            “ยัง~ ทำหน้าให้ดีๆหน่อยสิ คุณภรรยา” จงอินยกยิ้มก่อนจะเริ่มบทรักครั้งใหม่ โดยที่มีเสียงครวญครางและเสียงร้องไห้ของเซฮุนตลอดค่ำคืนนี้
            ลู่หานมองเพดานแก้วและประตูเหล็กด้วยใบหน้าที่คลอน้ำตา ร่างบางกอดเขาและถอดสายตามองไปนอกหน้าต่าง การเดินทางที่ยาวนานทำให้เขาเหนื่อยจนต้องยอมนอนลงและหลับไปทันที
            กึก! กึกๆๆๆๆๆ!!
            เซโล่เขย่าลูกกรงมาตลอดเวลาที่ถูกขัง ส่วนจงออบก็มองไปรอบๆอย่างงุนงงจนเซโล่ได้ตานอนแผ่ไปกับพื้นอย่างหมดความหวัง จงออบมองเซโล่ก่อนจะเดินมาจับลูกรงและเริ่มออกแรกดึงออกจากกัน
            คึก!
            เสียงปลดกุญแจทำให้ทั้งสองเงยขึ้นมาพร้อมกัน ควันสีดำลอยเข้ามาพร้อมกับร่างสูงที่ปรากฏกายภายในลูกกรงพร้อมกับกุญแจประตูที่ปลดล็อค
            “นาย!!” เซโล่กระโดดกอดเอวจงออบทันที ด้วยความตกใจและหวาดกลัว ขณะที่จงออบมองอีกฝ่ายด้วยความหวดาระแวง
            หมับ!!
            “เซโล่หนีไปช่วยพี่ลู่หานเร็วเข้า!!” จงออบกอดร่างสูงเอาไว้และเหวี่ยงลงกับพื้น เสียงตะโกนทำให้เซโล่รีบวิ่งออกมา และเดินไปเรื่อยๆด้วยความไม่รู้
            แดฮยอนปล่อยให้จงออบกอดไปเรื่อยจนกระทั่งร่างสูงพลิกกลับมาอยู่ด้านบนและดันคนมึนและไปกับพื้น แถมด้วยแรงดิ้นและถีบจากอีกฝ่าย
            “ฉันจะปล่อยเพื่อนนายไป แต่นายต้องอยู่ที่นี้” แดฮยอนอมยิ้ม พลางกดจมูกลงที่แก้มนิ่มทั้งสองข้างเมื่อจงออบเลิกดิ้น ปล่อยให้เขาอุ้มออกจากห้องขังง่ายๆ
            แกร๊ก!
            เสียงปลดกุญแจทำให้ยองแจกับแบคฮยอนหันไปมอง ร่างสูงของฮิมชานปรากฏภายในห้องขังและยกยิ้มมองร่างบางทั้งสองที่แทบจะรวมร่างกัน
            พลั่ก!
            ยองตรงเข้าต่อยอีกฝ่ายก่อนจะถีบซ้ำจนร่างสูงลงไปกองกับพื้น แบคฮยอนเข้าห้ามเพื่อนที่ทำท่าจะซ้ำอีกรอบ ก่อนจะลากออกไปจากห้องขัง
            “คิดว่าฉันจะแพ้นายแบบนี้ใช่ไหม? ยูยองแจ” ฮิมชานยกยิ้ม ก่อนจะเหลือทิ้งไว้เพียงกลุ่มควันที่เริ่มจางลง ขณะที่แบคฮยอนและยองแจกำลังวิ่งกันสุดตัว
            “พี่!!” เซโล่วิ่งเข้าหาทั้งสอง ก่อนจะเล่าเรื่องของจงออบให้ทั้งสองฟัง ตามด้วยลมหายใจอ่อนๆของแบคฮยอนที่กำลังบอกว่าไม่สบายใจ
            “ขอโทษนะที่ทำให้ลำบาก” แบคฮยอนก้มหน้ามองมือ ยองแจได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะกอดเพื่อนรักเอาไว้และลากไปตามทางเงียบๆ
            “รีบหาลู่หานและไปจากที่นี้กันเถอะ” ทางเงียบๆกับหมอกสีขาวทำให้ทั้งสามเริ่มจับกลุ่มกันแน่น ขณะที่สายตาก็สอดส่องไปทั่วเพื่อหาห้องที่น่าจะเป็นห้องขังของลู่หาน
            “ฉันว่าต้องเป็นห้องแน่นหนาและดูดีกว่าพวกเราคิดว่างั้นไหม?” ทุกคนพยักหน้า ขณะที่ยองแจเอาแต่จ้องกลุ่มควันด้วยความอยากรู้
            “นี่~ พวกพ่อมดมืดหายตัวแล้วควันเป็นสีดำใช่ไหม?” แบคฮยอนและเซโล่พยักหน้าพร้อมกัน ยองแจเดินตามกลุ่มควันไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้อีกสองคนได้แต่ตามไปด้วยความสงสัย
            “หมายความว่ายังไงเหรอ? ยองแจ” ควันสีขาวหยุดลงที่ทางแยกแผ่นหลังที่เงียบนิ่งของเพื่อนด้านหน้าทำให้แบคฮยอนสงสัยยิ่งกว่าเดิม
            “พวกพ่อมดขาวก็มีเวทมนต์เหมือนกัน พวกเขาน่าจะหายตัวได้เหมือนกัน และบางทีพ่อมดขาวอาจจะส่งใครมาช่วยลู่หานก็ได้” แบคฮยอนและเซโล่พยักหน้าพร้อมกันอย่างเห็นด้วย
            “งั้นตอนนี้ควันไปทางไหน” ทั้งสองเริ่มสอดสายตามองหากลุ่มควัน โดยมียองแจอมยิ้มกับท่าทางของทั้งสอง แต่ทั้งสามก็ชะงักเมื่อเสียงฝีเท้านับสิบกำลังวิ่งมาทางพวกเขา
            “หลบเร็ว!!” ยองแจดึงอีกสองคนเข้ามาในห้องข้างๆ เสียงที่ดังขึ้นด้านนอกแสดงให้เห็นว่าทุกคนในปราสาทรู้แล้วว่าพวกเขากำลังจะหนี
            “ฉันว่าพวกมันต้องไปเสริมกำลังที่ห้องขังลู่หานแน่เลย” ยองแจเริ่มเหงื่อตก ลำพังพวกเขาไม่มีทางเอาชนะกำลังของพวกทหารบ้ากำลังนั้นได้แน่น
            “แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ” ยองแจกดล็อคประตูจากด้านใน และวิ่งไปปิดหน้าต่างทุกบานในห้อง มองห้องที่ตกแต่งแบบเรียบด้วยความเหนื่อยใจ
            “ผมง่วงอ่ะ” เซโล่ทิ้งตัวลงบนเตียง ขณะที่พี่กำลังนั่งปรึกษากันอยู่ที่โซฟาปลายเตียงด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
            “แล้วเรา...”
            “ปล่อย!!!!!!” เสียงโวยวายด้านนอกทำให้แบคฮยอนและยองแจวิ่งไปที่ประตูและแนบหูลง เสียงโวยวายที่แสนคุ้นเคยทำให้ทั้งสองมองหน้ากัน
            “จงออบ!!” จงออบวิ่งสุดตัว พอเลี้ยวก็พบกับทั้งสองที่กำลังทำโตอยู่ ทั้งรอยยิ้มและอาการตกใจยังคงมีให้เห็น ก่อนจะล็อคห้องและพากันไปนั่งที่โซฟา
            พลั่ก!!
            “พี่!!!”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น