วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Sex No.4 :: อาการ



Sex Land ดินแดนหื่นหฤหรรษ์    
Sex No.4 :: อาการ
            ตกกลางดึกเป็นอะไรที่ทำให้คนป่วยน้องอย่างน้องเล็กกลัวที่สุด ขาเรียวภายใต้กางเกงนอนขายาวหยุดลงเมื่อพบพุ่มไม้ใกล้กับเต็นท์ที่ใช้นอน
            โครก~
            เซโล่หยุดก้าว และตั้งท่าจะเดินกลับเต็นท์ทันที ถ้าไม่หันไปกระแทกกับร่างหนาจนตัวเองล้มลงกัยพื้นอย่างแรงจนเจ็บก้น
            “พี่~” ยงกุกมองเจ้าเด็กตรงหน้าอย่างวิเคราะห์ ก่อนจะดึงแขนเล็ก และลากอีกฝ่ายให้ตามไปทางเต็นท์ของตร ที่ตั้งห่างออกไปไม่มาก
            “มันมีห้องน้ำของค่าย นายจะไปเข้าที่ไหน” เซโล่ยกมือเกาหัวก่อนจะวิ่งไปทางม่านกั้นระหว่างเต็นท์ แก้มทั้งสองข้างระเรือขึ้นเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะรู้ว่าเขากำลังต้องการปลดปล่อยฉี่ขนาดไหน
            “ขอบคุณฮะ~” คนตัวเล็กวิ่งกลับไปที่เต็นท์ โดยมีสายตาคมจับจ้องอยู่ตลอดเวลา เซโล่กลับเข้ามาในเต็นท์ที่พักอยู่กับลู่หาน ซึ่งคนเป็นพี่ก็ยังไม่ได้นอน
            “พี่ยังไม่นอนเหรอฮะ?~” ลู่หานหันมายิ้มพลางกระชับผ้าคลุมไหล่ มือเรียวกอดเข่าพลางวางหน้าลงที่หัวเข่า จนเซโล่เดินมานั่งข้างๆ
            “ช่วยเล่าเรื่องของดินแดนนี้ให้พี่ทีสิ” เซโล่พยักหน้า ก่อนจะดึงขาของพี่ชายลงและล้มตัวลงนอนพลางดึงผ้าห่มมาปิดอก
            “เมื่อหลายปีก่อน ดินแดนนี้ถูกเรียกว่าไบรท์แลนด์” ลู่หานถึงกับชะงัก มองหน้าน้องชายด้วยความสงสัยเป็นที่สุด แต่ก็ได้รับกลับมาเป็นรอยยิ้มหวาน
            “ทำไมล่ะ ก็ชื่อมัน...”
            “ฮะ ตอนที่พ่อมดขาวปกครองใช้ชื่อว่าไบร์แลนด์ ดินแดงแห่งแสงสว่างทุกคนมีความสุข พ่อมดขาวถึงจะเจ้าเล่ห์ไปบ้างครั้ง แต่ก็รักเดียวใจเดียว” ลู่หานเลือกที่จะฟังเงียบเงียบ
            “หลังกจากนั้นไม่นาน พ่อมดดำก็รู้สึกว่าตนนั้นคู่ควรกับบัลลังก์มากกว่าพี่ชายที่ดีแต่เปลือก พ่อมดดำร่ำเรียนสายเวทมนต์ศาสตร์มืดเพื่อเป็นพลังต้านกับพี่ชายตัวเอง หลังจากที่มั่นใจว่าตัวเองแกร่งพอแล้วเขากลับมาและฆ่าคนรักของพี่ชายตัวเองทิ้งสะ” ลู่หานเบิกตากว้างอย่างตกใจ ในใจรู้สึกไหววูบราวกับตัวเองอยู่ในเหตุการณ์นั้นเสียเอง
            “พ่อมดขาวถูกขับไล่ออกไปเมือง ส่วนพ่อมดดำนั้นมีแต่ความโลภ แถมยังหื่นกามอีก จึงเปลี่ยนชื่อดินแดนนี้ไปสะติดเรทขนาดนี้” เซโล่เบ้ปากอย่างขัดใจ ก่อนจะเด้งตัวขึ้น และคลานไปรินนมอุ่นในกระติกใสแก้วสองใบ
            “พ่อมดดำปรารถนาในตัวของเซฮุนมากหลังจากที่เจอกันครั้งแรกเมื่อครั้งงานเต้นรำเมื่อหลายปีก่อน นั้นทำให้พวกหนีกันหัวซุกหัวซุนขนาดนี้” เซโล่เริ่มห้าว ก่อนจะกระดกนมเข้าปากให้หมด
            “นอนเถอะ~ พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้า~” ลู่หานดันน้องชายลง และดึงผ้าห่มมาให้น้องชายพลางลูบหัว และล้มตัวลงข้างๆ
            “ฝันดีนะ~”
            ดวงจันทร์ที่ปรากฏตรงหน้าจงออบราวกับเป็นสัญณาณให้คนที่กำลังหลับตื่นตัว และออกแรงดิ้นจนเตียงทั้งหลังเริ่มสะเทือนไปด้วย
            “ตื่นก็ออกฤทธิ์เลยนะ” แดฮยอนลุกขึ้นจากเก้าที่มุมห้อง และตรงมาหาร่างเล็กที่เสาเตียง เสียงงดีดนิ้วพร้อมกับทั้งห้องที่สว่างวาบขึ้นมา
            “ปล่อยฉัน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” จงออบถูกโยนลงกับเตียงเมื่ออีกฝ่ายปลดพันธนาการหมด แต่ก็ถูกเท้าของอีกฝ่ายถีบเข้าที่ท้องน้องแทบจะทันที
            “อ๊ะ!!” มือหนาคว้าเข้าที่เอวและเหวี่ยงร่างบางลงไปกับพื้น ก่อนจะยกตัวขึ้นคร่อมและจ้องมองอีกฝ่ายราวกับจะกลืนกิน
            “หึ! ไปนอนสะ”
            จงดินก้าวเข้ามาในห้องนอนที่เขาพึ่งออกเพียงไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ มือหนาพร้อมกับชามข้ามต้มขนาดใหญ่ และขวดยาที่เอามาจากหมอหลวง
            “เซฮุน~ ตื่นขึ้นมากินข้าวกินยาเถอะ” มือหนาวางถาดลงที่โต๊ะหัวเตียงพลางลากเก้าอี้มา และเขย่าตัวคนที่หลัวอยู่ด้วยความเบามือที่สุด
            “อื้อ~” เซฮุนยกมือขึ้นขยี้ตาพลางมองอีกฝ่ายผ่านช่องนิ้ว ก่อนจะยอมลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง จงอินอมยิ้มพลางยกชามข้ามต้มและตักขึ้นมาเป่า
            “นายจะมาทำดีกับฉันทำไม?” เซฮุนปิดปากเงียบไม่ยอมรับข้ามต้มของอีกฝ่าย จนร่างสูงได้แต่ถอนหายใจและวางชามลงพลางกระโดดขึ้นคร่อมอีกฝาย และกดจมูกลงที่แก้มนิ่มราวฟองนม
            “ฉันไม่ยอมมาทำอะไรแบบให้คนที่ไม่ได้รักหรอกนะ” จงอินดึงร่างบางกอดไว้ กดจมูกลงที่กลุ่มผมแสนนุ่ม และทิ้งตัวลงหนุนตักคนป่วย
            “จริงเรอะ?!
            “รักที่สุด~” จงอินดึงใบหน้าหวานลงมารับจูบ พลางซุกใบหน้าและกันหน้าท้องของอีกฝ่าย แต่ก็ชะงักและเด้งตัวขึ้นมา
            “กินข้าว กินยาเดี๋ยวนี้เลย~” จงอินยกชามขึ้นมา และเป่าด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะส่งให้ร่างบางตรงหน้า เซฮุนยิ้มรับและเอื้อมมือมาจับมือหนาไว้
            “ขอบใจนะ~”
            “อย่ามายั่วนะ! แผลยังไม่หายเลย หายเมื่อไหร่โดนแน่!!
            พลั่ก!!!
            จงออบประธานฝ่าเท้าไปที่ร่างสูงที่นอนกอดกันมาตลอดคืนกันด้วยความรวดเร็วจนเจ้าตัวยังตั้งตัวไม่ทัน คนตัวเล็กกว่าวิ่งออกจากห้องด้วยความเร็วที่สุด แต่สะดุดกับร่างสูงตรงหน้า
            “จะหนีเหรอ?” แดฮยอนผลักอีกฝ่ายไปกระแทกกับผนัง ก้าวยาวยาวมาถึงอีกฝ่ายพร้อมกับมือหนาที่กระชากเสื้อของอีกฝ่ายออกด้วยความรวดเร็ว
            “ปล่อย!!!!” จงออบดิ้นรนทันทีเมื่อรู้สึกถึงลางร้ายที่กำลังก่อตัวรอบกาย รอยยิ้มเหยียดที่ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาราวกับเป็นเครื่องบอกเหตุชั้นดี
            “หึ!” แดฮยอนกดจูบลงที่ซอกคอขาวทันทีเมื่อจงออบเมินหน้าหนี พร้อมกับเสียงดีดนิ้วที่ดังขึ้นข้างหู ความรู้สึกที่ถูกบีบแน่นที่ข้อมือทั้งสองข้าง เชือกเส้นใหญ่ปรากฏอยู่ตรงหน้าจงออบ
            “อ๊า~” มือหนาปลดกางเกงเนื้อบางออกไปให้พ้นทาง รอยยิ้มเหยียดที่ยังคงเปื้อนยังบนใบหน้าหล่อเหลาตลอดเวลาหุบลงเมื่อร่างกายของคนตรงหน้าเปลือยเปล่า
            “ฮึก! ปล่อยเถอะนะ~” น้ำเสียงอ่อนแรงกลับไม่ทำให้ร่างสูงหยุดได้ กลับถูกเหวี่ยงไปที่เตียงอีกครั้งด้วยความแรง ความจุแล่นเข้าสู่โซนประสาทันที
            “หึ! ฉันให้โอกาสที่จะทำดีและอ่อนโยนกับนายแล้ว แต่เธอปฏิเสธมันเอง” แดฮยอนกดข้อเรียวจนจมหายไปกับเตียงแสนนุ่ม มือหนาแยกเรียวขาออก พลางแทรกกายเข้าไป
            “ขอร้องล่ะ~ ได้โปรด” มือหนาจับส่วนกลางกายด้วยความอ่อนโยนจนจงออบได้แต่แอ่นตัวตามเมื่อความซาบซ่านเริ่มเข้าปกคลุม
            “ฮึก อะ” แดฮยอนยกยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย นิ้วเรียวแทรกเข้าไปในช่องทางรัดคลึงตรงหน้าด้วยความรวดเร็วจนร่างบางกระตุก
            “จะ เจ็บ~” ใบหน้าหวานหลั่งน้ำตาออกมาทันทีเมื่อนิ้วที่สองแทรกเข้ามาอย่างรวดเร็ว ร่างบางดีดดิ้นอย่างรุนแรงเมื่อความเจ็บแปลบมากกว่าเก่า
            “หลังจากนี้มันจะมีแต่เสียว กับเสียว” แดฮยอนเลียริมฝีปาก พลางดึงนิ้วออกมาเพราะเสียงครางกระเซาะที่ดังออกมาเรื่อยเรื่อย อารมณ์ของร่างใต้อาบัติพุ่งสูงขึ้นเรื่อยเรื่อยเพราะมือหนา
            “ฮึก อ๊า!” สัมผัสเย็นวาบเมื่อแดฮยอนป้ายของเหลวแสนเย็นลงไป เกรสรดอกไม้สกัดเป็นสารหล่อลื่นที่ทำให้ร่างบางแอ่นอกขึ้นรับกับเรียวปากหนาที่กำลังตีตราจอง
            “จะ เจ็บ!!” แดฮยอนกดกายเข้าไปจนสุดในครั้งเดียว กลิ่นคาวสดคลุ้งเต็มห้องทันทีเมื่อแดฮยอนจะขยับกาย ใบหน้าหวานส่ายไปมาเพื่อระบายความเจ็บ มือเรียวจิกลงที่ไหล่กว้างอย่างแรงราวกับให้อีกคนได้รับรู้เช่นกัน
            “อ๊า!!!
            ลู่หานสะดุ้งตื่นขึ้นในตอนเช้า มือเรียวปาดเหงื่อออกด้วยความกังวล ร่างเพรียวลุกขึ้นทันที และวิ่งออกมาจากเต็นท์ ดวงตาสีรัตติกาลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลสว่างจนยองแจที่ตื่นแล้วได้แต่ตกใจ
            “ลู่หาน! ตานายกลายเป็นสีนี้อีกแล้ว” ลู่หานตะครุบที่ใบหน้าของตัวเองพลางวิ่งไปที่ลำธารใกล้ใกล้ ก่อนที่ยองแจจะสะดุดอีกครั้งเมื่อผมสีขาวสว่างกำลังเปลี่ยนเป็นสีส้มเข้ม
            “เกิดอะไรขึ้น?!” แบคฮยอนวิงเข้ามาด้วยความตกใจ มือเรียววางลงที่ไหล่และจับจ้องกลุ่มผมสีส้มด้วความงุนงง ขณะที่น้องเล็กได้แต่มองด้วยความตกใจ
            “ฉันว่าเรารีบเดินทางไปหาพ่อมดขาวจะเป็นการดีสำหรับการเปลี่ยนแปลงของราชินีนะ” จงกุกยืนมองเหตุการณ์ด้วยท่าทางที่นิ่งสงบ
            “ราชินี?” ทุกสายตามองมาที่จงกุกด้วยความงุนงงยิ่งกว่าเก่า แต่ร่างสูงก็ยังคงเงียบและเดินกลับไปที่เต็นท์ของตัวเอง
            “ใช่! บางทีพ่อมดขาวอาจมีวิธีแก้ก็ได้นะ” ทันทีที่ยองแจพูดจบ เซโล่ก็วิ่งกลับเข้าในเต็นท์และเก็บของด้วยความเร็วที่มีอยู่
            “เดี๋ยวฉันกลับไปเก็บของที่เต็นท์นะ” แบคฮยอนวิ่งกลับไปเก็บของ ส่วนลู่หานก็วิ่งเข้ามาในเต็นท์และหยิบผ้าคลุมไหล่มาโพกหัวด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับโกยของทุกอย่างลงกระเป๋า
            “รีบเร็วเถอะฮะ” เซโล่วิ่งออกนอกเต็นท์ เห็นเหล่าทหารกองปฏิวัติกำลังจังเรียงแถวกันเรียบร้อย โดยมีร่างสูงกำลังยืนอยู่ด้านหน้าสุด
            “พี่ฮะ~ พวกพี่พร้อมแล้วเหรอฮะ” เซโล่โผล่ออกมาด้านหน้า ทุกสายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างเพรียวบางแสนขาวสะอาดอย่างหื่นกระหายจนจงกุกต้องส่งสายตาดุดันไปทันที
            “พวกเราเสร็จแล้ว” ยองแจ แบคฮบอน และลู่หานวิ่งออกมาด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับสัมภาระมากมาย ทั้งหมดถูกขนขึ้นรถม้า และขบวนที่เริ่มออกเดินทาง
            “ลู่หาน! ผมนายยาวออกมาจนเกือบจะถึงกลางหลังแล้วนะ” มือเรียวดึงผ้าคลุมไหล่ที่โพกหัวออก พลางหยิบมีดสั้นของยองแจออกมา และลงมือตัดทันที
            “ชิ!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น